วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เสริมสร้างสันติภาพ ดร.สมัย เหมมั่น: วิเคราะห์ การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และสถานที่...

เสริมสร้างสันติภาพ ดร.สมัย เหมมั่น: วิเคราะห์ การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และสถานที่...: D-HOUSE บ้านดีบ้านคุณภาพ โดย ดร.สมัย เหมมั่น: วิเคราะห์ การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และสถานที่... : ปัญหาที่ทำกิน  บน อ.เขาค้อ เอกสารหมด...

วิเคราะห์ การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และสถานที่...ปี 2558 ยุค คมช.

D-HOUSE บ้านดีบ้านคุณภาพ โดย ดร.สมัย เหมมั่น: วิเคราะห์ การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และสถานที่...: ปัญหาที่ทำกิน  บน อ.เขาค้อ เอกสารหมดอายุ  เอกสารแสดงสิทธ์ทำกินหมดอายุ นายทุนรุกป่า มากขึ้น  ปี 2558 ...

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กองทัพรัฐฉานเหนือ-ใต้จัดงานวันกอบกู้รัฐฉาน World Peace Watch Committee/WPWC

World Peace Watch Committee/WPWC

กองทัพรัฐฉานเหนือ-ใต้จัดงานวันกอบกู้รัฐฉานปีที่ 54 ในหลายเมือง

โดยกองทัพรัฐฉานเหนือ จัดที่ บก.บ้านไฮ ส่วนกองทัพรัฐฉานใต้ นอกจากจัดงานที่ บก.ดอยไตแลงแล้ว ปีนี้มีการจัดงานที่เมืองน้ำคำ ติดชายแดนจีนด้วย ขณะที่เจ้ายอดศึกพร้อมคณะ ซึ่งเดินทางไปเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่า ถือโอกาสจัดงานรำลึกวันกอบกู้รัฐฉานร่วมกับประชาชนในเมืองเชียงตุงเป็นครั้งแรก ขณะที่ขากลับคนเชียงตุง-ท่าขี้เหล็กแห่ต้อนรับ
ทหารกองทัพรัฐฉาน สวนสนามเนื่องในวันกอบกู้รัฐฉาน ซึ่งจัดโดยกองทัพรัฐฉาน (RCSS/SSA) ที่ฐานดอยไตแลง รัฐฉานตอนใต้ ตรงข้าม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา (ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย Hark Kur)
กองทัพรัฐฉาน SSA/RCSS จัดงานวันกอบกู้รัฐฉาน ที่บ้านม้า เมืองน้ำคำ รัฐฉานภาคเหนือติดชายแดนจีน (ที่มาของภาพ: สำนักข่าวฉาน)
สำนักข่าวฉาน (S.H.A.N.) ภาคภาษาไทย รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 55 ซึ่งตรงกับวันกอบกู้ชาติรัฐฉานครบ 54 ปี กองทัพรัฐฉาน SSA ทั้งกองทัพรัฐฉานเหนือ (SSA/SSPP) และ กองทัพรัฐฉานใต้ (SSA/RCSS) ได้จัดงานพิธีรำลึกกันอย่างคึกคัก ในปีนี้ถือว่ามีความพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากกองทัพรัฐฉานใต้ SSA/RCSS นอกจากจะมีพิธีจัดงานที่ดอยไตแลง ที่ตั้ง บก.สูงสุด ตรงข้าม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอนแล้ว ยังได้มีการจัดงานพิธีอย่างยิ่งใหญ่อีกแห่งเป็นครั้งแรกที่เมืองน้ำคำ รัฐฉานภาคเหนือ มีประชาชนเข้าร่วมนับพันคน
ขณะที่ พล.ท.เจ้ายอดศึก พร้อมคณะผู้นำระดับสูงซึ่งเป็นคณะเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่ารวมกว่า 20 คน ได้ร่วมงานฉลองวันกอบกู้ชาติกับประชาชนเป็นครั้งแรกที่เมืองเชียงตุง ภายหลังจากเดินทางไปเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่า ระดับชั้นสหภาพที่เมืองเชียงตุง เมื่อวันที่ 19 พ.ค. และเดินทางไปเยือนเขตปกครองพิเศษเมืองลา หรือ กองกำลังเมืองลา NDAA กลับถึงเชียงตุงในวันที่ 21 พ.ค. พอดี โดยมีสมาชิกพรรคการเมือง เช่น พรรค SNLD , NLD , USDP ซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ รวมถึงผู้นำชุมชน ผู้นำชมรมวัฒนธรรม กลุ่มชนเผ่า กลุ่มเยาวชน และประชาชนหลากหลายอาชีพในเมืองเชียงตุงราว 400 คน ให้การต้อนรับและร่วมงานเลี้ยงฉลองกลางวันร่วมกัน
พล.ท.เจ้ายอดศึก กล่าวในงานเลี้ยงว่า กรณีทำสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า โดยระบุว่า สถานการณ์โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปพร้อมกับรัฐบาลพม่าชุดใหม่ได้ยื่นมือขอเจรจาสันติภาพกับกลุ่มต่อต้านทุกกลุ่มเพื่อสร้างสันติภาพของประเทศ ทางกลุ่ม RCSS/SSA จึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจากการจับปืนต่อสู้มานานกว่า 50 ปี หันมาเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ด้วยการเจรจาทางการเมือง
ประชาชนชาวเมืองเชียงตุง ให้การต้อนรับเจ้ายอดศึก และคณะ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 55 (ที่มาของภาพ: สำนักข่าวฉาน) 
พล.ท.เจ้ายอดศึก ได้กล่าวชักชวนให้ประชาชนหันมาใส่ใจการเมือง และขอให้ประชาชนใส่ใจเรื่องการทำบัตรประจำตัวประชาชน โดยให้เหตุผลว่า หากไม่มีบัตรประชาชนจะไม่สามารถเข้าเล่นการเมือง หรือ ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ด้วยเหตุที่ประชาชนไม่ใส่ใจการเมืองและไม่มีบัตรประชาชนไปลงคะแนนเลือกตั้ง จึงทำให้การเลือกซ่อมครั้งที่ผ่านมาพรรคการเมืองไทใหญ่ไม่ได้รับชัยชนะ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ในวันกอบกู้ชาติรัฐฉาน ปีที่ 54 นี้ พรรคก้าวหน้ารัฐฉาน SSPP (Shan State Progressive Party) ปีกทางการเมืองของกองทัพรัฐฉานเหนือ ได้จัดงานพิธีรำลึกอย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน โดยงานจัดขึ้นที่กองบัญชาการใหญ่บ้านไฮ เขตเมืองเกซี รัฐฉานภาคเหนือ มีผู้นำระดับสูง กองกำลัง และประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 1 พันคน
ในงานพิธีมีการเล่าประวัติความเป็นมาวันกอบกู้ชาติรัฐฉาน และทางผู้นำระดับสูงของ SSPP/SSA เช่น เจ้าเสือแท่น  เจ้าขุนแสง  เจ้าเครือไต ได้กล่าวถึงความเป็นมาเกี่ยวกับการต่อสู้รวมถึงบทเรียนต่างๆ ที่ SSPP/SSA ได้ประสบผ่านพ้นมา พร้อมกันได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เหล่าผู้นำ และทหารหาญที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กู้ชาติที่ผ่านมาด้วย
พล.ท.เสือแท่น ผู้นำระดับสูงในกองทัพรัฐฉาน SSA 'เหนือ' กล่าวสุนทรพจน์ ในงานวันกอบกู้รัฐฉาน ที่ บก.บ้านไฮ (ที่มาของภาพ: SSPP/SSA /สำนักข่าวฉาน)
วันกอบกู้ชาติรัฐฉาน หรือ ที่ชาวไทใหญ่เรียกว่า "วันลุกพื่น" ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2501 โดยเจ้าน้อย หรือ ซอหยั่นต๊ะ ได้รวบรวมกลุ่มเพื่อนและผู้มีอุดมการณ์รักชาติรวม 31 คน ทำพิธีดื่มน้ำสาบานปฏิญาณตนร่วมกันทำการต่อสู้ทวงถามสนธิสัญญาปางโหลงจากพม่าและนำเอกราชกลับคืนสู่รัฐฉาน โดยจัดตั้งเป็นกองกำลังขึ้นในชื่อ “กองกำลังหนุ่มศึกหาญ” หรือเรียกตามชื่อเต็มคือ “กองกำลังหนุ่มศึกหาญกอบกู้เอกราชสู่รัฐฉาน” ที่ฝั่งแม่น้ำสาละวิน โดยประชาชนในรัฐฉานได้ยึดถือเอาวันที่ 21 พ.ค. เป็นวันต่อสู้เพื่อเอกราช หรือ วันกอบกู้ชาติ เป็นวันสำคัญของชาติ มีการจัดงานรำลึกและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เหล่าวีระบุรุษที่เสียสละเลือดเนื้อจากการต่อสู้เพื่อกู้ชาติรัฐฉานเป็นประจำทุกปี

ที่มา: กองทัพรัฐฉาน SSA "เหนือ" – ใต้ จัดงานรำลึกวันกู้ชาติครบ 54 ปี, Khonkhurtai : 23 พฤษภาคม 2555
Tags

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

สันติภาพในพม่า คะฉิ่น



โจมตี'คะฉิ่น'ภาพช่องว่างรบ.พม่า-กองทัพ

'สุทธิชัย หยุ่น' วิเคราะห์สถานการณ์กองทัพพม่าโจมตีชนกลุ่มน้อย 'คะฉิ่น' รวมถึงบทบาทสื่อ

              10ม.ค.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์suthichaiyoon.com ได้เสนอบทวิเคราะห์เรื่อง โจมตี"คะฉิ่น" ภาพช่องว่างรัฐบาลพม่า-กองทัพ ความว่า  One World ของสุทธิชัย หยุ่น เชื่อว่า การโจมตี "คะฉิ่น" ที่สะท้อนภาพช่องว่างรัฐบาลพม่า และกองทัพ ท่ามกลางการสู้รบระหว่างพม่ากับชาวคะฉิ่นที่ยังคงดำเนินไปอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นปีมานี้ ยังคงเป็นบททดสอบในการเปิดประเทศ และเป็นโจทย์ "การบ้าน" ที่ฐบาลพม่าต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกิดการปรองดองในชาติ
              ใครอยู่ใกล้ทางเหนือของไทยติดกับชาวแดนพม่า คงจะได้ยืนเสียงระเบิด เพราะรัฐบาลออกมายอมรับว่าได้ยิงถล่มรัฐคะฉิ่น
              โดยรัฐคะฉิ่นนั้น เป็น 1 ใน 7 รัฐอิสระในพม่า ที่ประกอบด้วย รัฐคะฉิ่น รัฐกะยา รัฐกะเหรี่ยง รัฐชิน รัฐฉาน รัฐมอญ รัฐยะไข่ โดยที่ปัจจุบันรัฐคะฉิ่นเป็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มสำคัญกลุ่มเดียวในพม่า ที่ยังไม่บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า
              แต่ที่น่าแปลก คือ เมื่อสองสามวันก่อน รัฐบาลเต็งเส่ง บอกว่า ไม่มีการยิงต่อสู้กัน แต่ต่อมาสองวันกองทัพบอกว่ามี เพราะคะฉิ่นโจมตีฐานที่มั่นทหารของกองทัพพม่าก่อน
              ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่ง สามารถควบคุมกองทัพได้หรือไม่ โดยที่มีคำถามเกิดขึ้นว่่า หนึ่ง ทำไมไม่สามารถเจรจากับคะฉิ่น เพื่อให้มีการปรองดองเกิดขึ้น และสอง การทำงานระหว่างรัฐบาลและกองทีพมีเอกภาพหรือไม่ รัฐบาลสั่งกองทัพได้หรือไม่ รวมทั้งพูดจาเรื่องเดียวกันหรือไม่
              ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ เป็นการสะท้อนว่า รัฐบาลพท่ายังมีการบ้านที่ต้องทำอีกเยอะ เป็นยังเป็นบททดสอบนโยบายในการเปิดประเทศของพม่าอีกด้วย
              ขณะที่ชนกลุ่มน้อยชาวคะฉิ่นในพม่าที่อพยพหนีภัยสงครามระหว่างกบฏชาวคะฉิ่น ที่ต่อสู้เรียกร้องอำนาจในการปกครองตนเอง กับทหารรัฐบาลพม่า ได้บอกเล่าถึงความน่ากลัวของการสู้รบ
              การสู้รบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น นับตั้งแต่ที่เปิดฉากขึ้นเมื่อ 19 เดือนก่อน ทำให้ชีวิตของชาวคะฉิ่นอพยพราว 1 แสนคน ทวีความยากลำบากมากขึ้น ผู้อพยพจำนวนมาก พักอาศัยอยู่ตามค่ายผู้อพยพทั้งในเมือง ไลซา และเขตใกล้เคียง ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ของกลุ่มกบฏ
              ผู้ดูแลค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งบอกว่า ใกล้ๆกับค่ายพัก ยังมีการสู้รบกันอย่างหนัก และทุกคนที่นี่ก็กลัวกันมาก และถ้ารัฐบาลใช้ปืนใหญ่ กระสุนก็อาจลอยมาตกที่นี่ได้
              ในแถลงการณ์ ฝ่ายรัฐบาลบอกว่า มีการออกคำสั่งให้ยุติการโจมตีกองกำลังกบฏทั้งหมดแล้ว แต่กองทัพยังจำเป็นต้องปกป้องทหารรัฐบาลอยู่ ในเมื่อกลุ่มกบฏยังคงเดินหน้าซุ่มโจมตี และวางระเบิด แต่รัฐบาลกำลังใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด
การต่อสู้รอบใหม่นานกว่า 19 เดือน ทวีความดุเดือดอย่างมากนับตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส เมื่อกลุ่มกบฏปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลที่ต้องการให้ขบวนรถเสบียงผ่านไปยังฐานทัพทหาร โดยกบฏให้เหตุผลว่า เสบียงดังกล่าวอาจจะมีกระสุนปืนรวมอยู่ด้วย และอาจจะนำมาใช้โจมตีกองบัญชาการของพวกเขาได้ จากนั้น กองทัพก็ส่งเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธปืน โจมตีและยึดที่มั่นของกบฏ
              โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลพม่าเสนอหยุดยิงกับกบฏคะฉิ่น หลังถูกโลกวิจารณ์กรณีโจมตีทางอากาศถล่มกบฏ
              ทั้งนี้ รัฐบาลพม่าเสนอให้มีการหยุดยิงระหว่างกองทัพและกบฏรัฐคะฉิ่น หลังการโจมตีทางอากาศต่อฐานบัญชาการกบฏอย่างหนักตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วทำให้ถูกวิจารณ์จากนานาชาติ
              โดยพลตรี จ่อ เตย์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดี เปิดเผยวันนี้ว่า รัฐบาลได้ติดต่อกับองค์กรอิสรภาพคะฉิ่นและกองทัพเอกราชคะฉิ่นเพื่อเจรจาหยุดยิง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ และย้ำว่าทั้งสองฝ่ายควรมีการหารือกันตัวต่อตัวเพื่อยุติการสู้รบ
              ท่าทีของทางการพม่ามีขึ้นหลังจากได้รับแรงกดดันจากนานาชาติให้ยุติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักต่อกบฏคะฉิ่นในภาคเหนือช่วงหลายวันนี้ และสำนักข่าวบีบีซีได้เผยแพร่ภาพการโจมตีที่ถ่ายไว้ได้โดยกลุ่มฟรี เบอร์ม่า เรนเจอร์ส พร้อมกับรายงานว่าดูเหมือนกองทัพจะปฏิบัติการเกินกว่าคำสั่งของประธานาธิบดีเต็ง เส่งที่ให้ใช้กำลังเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
              การสู้รบระหว่างกบฏและทหารเริ่มขึ้นระลอกใหม่เมื่อปี 2554 หลังหยุดยิงมานาน 17 ปี และล่าสุดนับตั้งแต่ 28 ธ.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา กองทัพพม่าเปิดฉากการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังของคะฉิ่นในเมืองไลซา ที่อยู่ตรงพรมแดนระหว่างรัฐคะฉิ่นและจีน กบฏอ้างว่ากองทัพใช้เครื่องบินขับไล่ที่ผลิตในจีนและเฮลิคอปเตอร์กันชิพทิ้งระเบิดขนาดเล็กและสารเคมีบางชนิดใส่ฐานบัญชาการของกบฏ ทำให้สมาชิกฝ่ายกบฏกว่า 40 คนต้องเข้าโรงพยาบาลหลังสูดกลิ่นก๊าซจากสารเคมีเข้าไป แต่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีบอกว่าไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่ในการโจมตี ใช้เพียงเครื่องบินสำหรับฝึกบิน และไม่ได้เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน
              ขณะที่นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ประณามการโจมตีของกองทัพพม่า และเรียกร้องให้ทางการพม่ายุติการกระทำใดๆที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตพลเรือนในพื้นที่ดังกล่าวและหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแสดงความห่วงใยต่อความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น และเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและกบฏยุติการสู้รบ และหันหน้าเจรจากัน
              นอกจากนี้ มีรายงานว่าการสู้รบในรัฐคะฉิ่นครั้งล่าสุดทำให้เกิดคำถามว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีเต็งเส่ง มีอำนาจควบคุมกองทัพหรือไม่ หลังจากเขามีคำสั่งตั้งแต่ปีที่แล้วให้กองทัพยุติการสู้รบกับกบฏชนกลุ่มน้อย
              ทั้งนี้สามารถชมคลิปการวิเคราะดังกล่าวได้ที่ http://www.suthichaiyoon.com/home/details.php?NewsID=809 ขณะเดียวกันสุทธิชัย หยุ่น ยังได้วิเคราะห์สถานการณ์ในประเทศพม่าโดยเฉพาะสถานการณ์สื่อโดยให้หัวข้อว่า พม่าเปิดประตูเสรีภาพอีกก้าว... ปูทาง น.ส.พ. รายวันครั้งแรกใน 50 ปี ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่http://www.oknation.net/blog/blackcheepajornlok/2013/01/10/entry-1

คนอ่าน 1923 คน